iQOO Neo 855 มือถือสเปคแรง Snap855 จอ HDR10 ราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น

iQOO Neo 855 มือถือสเปคแรง Snap855 จอ HDR10 ราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น

iQOO Neo 855 สมาร์ทโฟนตัวแรง แบรนด์งลูกจาก Vivo ที่มาในราคาย่อมเยาพร้อมเอาใจสายเกมมิ่ง พร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2340พิกเซล(404 ppi) HDR10, ที่สัดส่วนจอ 19.5:9 พร้อมอัตราส่วนหน้าจอที่ 83.3% พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือที่ใต้หน้าจอ. iQOO Neo 855 มาพร้อมขุมพลังเป็น Qualcomm Snapdragon 855 ซีพียู Octa-core 2.84 GHz พร้อมชิพประมวลผล Adreno 640ให้คุณเล่นเกมส์แบบไม่มีสะดุด.

หน่วยความจำให้ RAM มา 8GB และความจุ 256GB 

แบบ UFS 3.0 ที่ให้ประสิทธิภาพสูง มาพร้อมกับระบบระบายความร้อน 10 ชั้น และ Multi-Turbo 2.0 ให้คุณเล่นเกมได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด. ในส่วนของกล้องให้มาแบบจัดเต็ม กล้องหลัง 3 ตัว เซ็นเซอร์หลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, เลนส์ wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 และ depth sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 รองรับ HDR. บันทึกวีดีโอได้สูงสุดที่ 4K@30fps และ 1080p@30fps. กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงที่ f/2.0 รองรับ HDR บันทึกวีดีโอได้สูงสุดที่ 1080p@30fps.

แบตเตอรี่ให้มา 4500 mAh ให้คุณได้ใช้งานกันแบบจุใจ พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว 33 วัตต์ ชาร์จแค่ 10 นาที ก็ได้ใช้กันยาวๆ. iQOO Neo 855 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Carbon black, สีม่วง Electro-optic violet และ สีขาว Icelandic Aurora.

Xiaomi หนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีรายใหญ่จากจีน ได้มีการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการประกจำไตรมาสที่สามของปี 2019. โดยผลประกอบการในครั้งนี้ถือเป็นตัวเลขที่เรียกได้ว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ที่ $7.63 พันล้านเหรียญฯ ตัวเลขรายได้นี้ที่ว่าน่าสนใจแล้ว แต่มีสิ่งที่น่าสนใจกว่า นั่นคือทีมาของรายได้เหล่านี้.

ถึงสมาร์ทโฟนจะเป็นสิ้นค้าหลักที่สร้างชื่อให้กับ Xiaomi แต่อีกกลุ่มสินค้าที่อยู่เบื้องหลังและมีส่วนสำคัญกับตัวเลขมหาศาลนี้กลับมาจากสินค้าที่เป็น IoTอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต และ Smart Home หรืออุปกรณ์สำหรับติดในบ้านซะมากกว่า ขณะที่ส่วนของสมาร์ทโฟนกลับดร็อปลงไปนิดหน่อย.

อย่างไรก็ตาม ยอดขายในส่วนของสมาร์ทโฟน Xiaomi ยังถือว่าทำได้ดี ด้วยตัวเลขที่ $4.59 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งอาจฟังดูดี ทว่าตัวเลขนี้หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว มันตกลงไปถึง 7.8% เลยทีเดียว.

ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 นี้ Xiaomi ทำยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนไปได้ถึง 32.1 ล้านเครื่อง ซึ่งเพียงพอที่จะดันให้ Xiaomi ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 ในตลาดสมาร์ทโฟนโลก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 9.2%.

ไตรามาสนี้สิ้นค้าประเภท IoT หรือที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตและสินค้าอื่นๆ ทำตัวเลขรายได้รวมๆกว่า $2.22 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 44.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว. ส่วน Smart TV และคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปทำยอดไปได้ $824 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การเติบโตเพิ่มขึ้น 36.5% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว.

ผลประกอบการโดยรวมของ Xiaomi ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 นี้ โตขึ้น  17.2%.​โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2019 นี้ Xiaomi มรผลกำไรสุทธิอยู่ที่  $1.3 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วถึง 37.1% และยังมากกว่ารายได้ของ Xiaomi ทั้งปี 2018 เสียอีก.

สหรัฐฯเตรียมออกมาตรการใหม่ หลังสั่งแบน Huawei เหมือนสั่งขี้มูก

ดูเหมือนว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะพยายามอย่างหนักที่จะกัน Huawei ออกจากการแข่งขันทั้งในสายงานอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบเน็ตเวิร์คและสายงานสมาร์ทโฟน.​ ซึ่งตั้งแต่มีการประกาศสั่งแบน ก็ดูเหมือนว่าสิ่งที่พยายามทำนั้นจะไม่ค่อยได้ผลดีเท่าที่ควร. ล่าสุดดูเหมือนว่ารัฐบาลสหรัฐฯกำลังจะมีงัดวิธีใหม่ออกมาสู้กับหัวเว่ย.

อย่างที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้กระทราวงพาณิชย์สหรัฐฯได้มีการใส่ชื่อเข้าไปในบัญชีดำด้วยข้อหาเป็นภัยความมั่นคงต่อประเทศ และส่งผลให้บริษัทในอเมริกาไม่สามารถทำธุรกิจกับหัวเว่ยได้ ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการเปิดตัว  Huawei Mate 30 ซีรี่ย์โดยไม่มีบริการและแอ้พต่างๆจาก Google. แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จัดเขี่ย Huawei ออกไปจากเส้นทางได้. ล่าสุดมีการรายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯอาจมีการขยายขอบเขตอำนาจในการระงับการซื้อขายสินค้าระหว่างบริษัทในอเมริกากับหัวเว่ย.

ขณะที่ทางหัวเว่ยก็ดูเหมือนว่าหัวเว่ยจะมีตัวเลือกสำรองอยู่ไม่น้อยและเพียงพอที่จะทำให้คำสั่งแบนจากสหรัฐฯกลายเป็นเหมือนสั่งขี้มูกไปเลย. ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้ผลิตอะไหล่จากต่างประเทศ(ที่ไม่ใช่สหรัฐฯ)จำนวนมากที่อยู่เหนือการควบคุมของสหรัฐฯและยินดีที่จะทำธุรกิจกับหัวเว่ย ถึงแม้จะมีการประกาศเตือนจากทางอเมริกาก็ตาม.​

สำหรับเงื่อนไขของผู้ที่สนใจลงทะเบียน “ล้างแอร์ช่วยชาติ” เฟส 2 จะต้องเป็นเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง ขนาดไม่เกิน 24,000 BTU จำกัดแค่ 1 คน / 1สิทธิ์ / 1 ครัวเรือน โดยค่าล้างแอร์มูลค่า 600 บาท กฟผ. จะสนับสนุน 300 บาท และ ประชาชนจ่ายเพียง 300 บาท และต้องไม่เคยได้รับสิทธิ์จากโครงการล้างแอร์ช่วยชาติ เฟส 1’

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น